bai sema 10icon zoom

ชื่อโบราณวัตถุ :
ใบเสมาพรหมนารถชาดก
แบบศิลปะ :
ทวารวดี
ชนิด : 
หินทราย
ขนาด :
กว้าง 55 สูง 113 หนา 17 เซนติเมตร
อายุสมัย :
ทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 14 - 16
ลักษณะ :
ลักษณะและรายละเอียด
     เป็นใบเสมาแบบแผ่นหินแบน สภาพไม่สมบูรณ์ บริเวณตอนล่างของใบเสมาหักหายไปส่วนหนึ่ง มีรูพรุนอยู่โดยรอบ มีภาพสลักอยู่ด้านหน้าเพียงด้านเดียว เป็นภาพบุรุษยืนหาบหรือคอนกรเช้าสองข้าง พระเกศายาวขมวดมุ่นมวยที่กลางศีรษะ พระหัตถ์ขวายกขึ้นระดับพระอุระ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ข้างพระวรกาย ที่พระอังสามีคานหาม มีสิ่งของห้อยอยู่ที่ปลายคานทั้งสองด้านจากลักษณะองค์ประกอบภาพคล้ายใบเสมาที่พบที่บ้านกุดโง้ง ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ และใบเสมาสลักภาพพรหมนารทชาดกที่พบที่เมืองฟ้าแดดสงยาง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาไว้ภายในวัดโพธิ์ชัยเสมาราม บ้านเสมา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
การวิเคราะห์เนื้อหา
     ทศพร ศรีสมาน ทำการศึกษาวิเคราะห์ภาพเล่าเรื่องบนใบเสมาแผ่นนี้และสันนิษฐานว่าเป็นภาพเล่าเรื่องในชาดก เรื่องพรหมนารมชาดก เป็นเหตุการณ์ตอนที่พระโพธิสัตว์ทรงแปลงกายเป็นนักบวชหาบสาแหรกเหาะลงมายังที่ประทับของพระเจ้าอังคติราชเพื่อทรงแสดงธรรมเรื่องบาปบุญคุณโทษ ลักษณะคล้ายใบเสมาสลักภาพเล่าเรื่องที่บ้านกุดโง้ง ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ที่สุรัสวดี อิฐรัตน์ ได้ทำการศึกษาวิเคราะห์และสันนิษฐานว่าเป็นภาพเล่าเรื่องในชาดก เรื่อง พรหมนารทชาดกเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีลักษณะคล้ายใบเสมาที่พบจากเมืองฟ้าแดดสงยาง ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ภายในวัดโพธิ์ชัยเสมาราม บ้านเสมา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ นักวิชาการบางท่านศึกษาวิเคราะห์แล้วและสันนิษฐานว่าน่าจะสลักภาพจากชาดก เรื่อง พรหมนารทชาดกเช่นเดียวกัน เหตุการณ์ในชาดกเรื่องนี้มีดังนี้
     "พระเจ้าอังคติราชเป็นกษัตริย์ครองเมืองมิถิลา ทรงมีพระราชธิดานามว่า พระนางรุจาราชกุมารี ทั้งสองพระองค์ใฝ่ในการบุญการกุศล บริจาคทานอยู่เนืองๆ วันหนึ่งพระเจ้าอังคติราชได้สนทนาธรรมกับชีเปลือย นามว่าคุณาวกะ และได้รับฟังชีเปลือยกราบทูลว่า บาปบุญไม่มี โลกหน้าไม่มี ทุกคนเสมอภาคกันหมด ทานหรือผลทานย่อมไม่มี ความเพียรไม่มีอำนาจจะทำให้คนดีหรือชั่ว คนโง่เป็นผู้ให้ คนฉลาดเป็นผู้รับ จึงทรงเหลือเชื่อและละเว้นการทำทาน ทรงเพลิดเพลินอยู่กับความสุข ความรื่นเริง ไม่สนใจราชการแผ่นดิน แม้พระธิดาจะกราบทูลให้เลิกเห็นผิดเป็นชอบเพียงใดก็ไม่ได้ผล นางจึงตั้งสัตยาธิษฐานให้เทวดามาช่วยพระบิดาให้หลุดพ้นจากมิฉาทิฐิ พระโพธิสัตว์ซึ่งเสวยพระชาติเป็นท้าวมหาพรหม นามว่า นารท จึงแปลงกายเป็นนักบวชหาบสาแหรกประดับมุกดา ข้างหนึ่งบรรจุภาชนะทองคำ อีกข้างหนึ่งบรรจุคนโทแก้วประพาฬบนพระอังสา เหาะลงมายังที่ประทับของพระเจ้าอังคติราช พระองค์ทรงถามว่าพระพรหมนารทมาจากไหนเหตุใดจึงมีฤทธิ์ พระพรหมนารทจึงทูลว่า พระองค์มาจากเทวโลกเพราะได้บำเพ็ญธรรม 4 ประการ คือ สัจจะ ธรรมะ ทมะ และจาคะ ไว้ในชาติก่อน ผลบุญจึงส่งให้มีฤทธิ์ในชาตินี้ พระเจ้าอังคติราชทรงขอให้พระพรหมนารทบอกทางไปสวรรค์ เมื่อจะกระทำสิ่งใดควรมีอุเบกขาและใช้ปัญญาพิจารณาให้รอบคอบเมื่อเห็นว่าเป็นสิ่งดีมีประโยชน์จึงเชื่อและปฏิบัติตาม พระเจ้าอังคติราชจึงสำนึกในพระทัย ละจากมิจฉาทิฐิและตั้งมั่นอยู่ในสัมมาทิฐิ ปกครองอาณาประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรมต่อไป"
     ในสมัยต่อมายังคงนิยมวาดภาพจิตรกรรมเหตุการณ์ในชาดกตอนนี้อย่างแพร่หลาย เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดใหญ่ จังหวัดชลบุรี ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดคงคาราม จังหวัดราชบุรี ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดเครือวัลย์วรวิหาร กรุงเทพมหานคร ภาพจิตรกรรมในสมุดข่อยวัดเขายี่สาร จังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากนี้ยังปรากฏบนตู้พระธรรมลายรดน้ำ ที่หอพระสมุดวชิรญาณ สำนักหอสมุดแห่งชาติ เป็นต้น
ประวัติ :
เป็นของกลางได้รับจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
สถานที่จัดแสดง :
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น

z bai sema 01
icon zoom 2