สาระเกี่ยวกับพระนครคีรี

เขียนโดย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี on . Posted in Blog

1475417576

 

 

พระบรมรูปรัชกาลที่ 4

พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ประดิษฐานอยู่ในพระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท ซี่งตั้งอยู่บนยอดเขาทางทิศตะวันตกของพระนครคีรี (เขาวัง) พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในชุดฉลองพระองค์ที่มีพระราช ดำริขึ้นเป็นแบบใหม่ และเครื่องทรงชุดนี้ได้เคยฉลองพระองค์เสด็จออกรับทูตานุทูตมาแล้ว กล่าวคือ เครื่องแต่งกายประกอบด้วยทรงพระมาลา (หมวก) ทรงหม้อตาล ฉลองพระองค์เสื้อเยียรบับ ชายฉลองพระองค์ตัดเป็นกลีบอย่างเสื้อลายสก๊อต มีตรามหาอุณาโลมพระภูษา (ผ้านุ่ง) โจงขอบเชิง ทรงฉลองพระบาท พระราชอิริยาบถยืนตรงโดยพระเพลา (ขา) ขวาก้าวออกมาด้านหน้าขณะที่ลักษณะของพระพักตร์ตอบ ทำให้เห็นรอยพระสิรัฐิ (กะโหลกศีรษะ) และเห็นรอยโหนกปราง พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบปลายพระแสงดาบลงพื้น พระหัตถ์ซ้ายทรงหนังสือ ประทับยืนอยู่ในใต้นพปฏลมหาเศวตฉัตร (ฉัตรเก้าชั้น) มุมพระโอษฐ์ขวาตกลงมามีรอยย่นระหว่างพระปราง (แก้ม) และพระโอษฐ์

          พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อาจกล่าวได้ว่าเป็นประติมากรรมชิ้นแรกที่ปั้นขึ้นในขณะที่บุคคลผู้เป็นแบบ ของประติมากรรมยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ต่างจากการสร้างประติมากรรมแทนตัวบุคคลที่ผ่านมา กล่าวโดยสังเขปคือ การสร้างประติมากรรมแทนตัวบุคคลนั้นปรากฎอย่างชัดเจนในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนต้น คือ พระพุทธรูปทรงเครื่องฉลองพระองค์ ได้แก่ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามซึ่งเป็นประติมากรรมแทนรัชกาล ที่ 1 และ 2 ประติมากรรมดังกล่าวแฝงความหมายหรือคติอาทิ คติเรื่องพระพุทธเจ้าเป็นจักรพรรดิราช หรือ คติการบูชาบรรพบุรุษ อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าการสร้างประติมากรรมในช่วงต้นรัตนโกสินทร์นั้นยัง คงมีลักษณะที่อิงตามประติมากรรมในศาสนาพุทธอยู่ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของพัฒนาการการสร้างประติมากรรมปูนปั้น ประติมากรรมองค์หนึ่งที่สำคัญในช่วงระยะนี้คือ รูปสมเด็จเจ้าแตงโม ที่วัดใหญ่สุวรรณราม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์อันเนื่องมาจากเริ่มเห็นรูปแบบ ที่อิงกับความเหมือนจริงมากขึ้น อาทิ ศีรษะเรียบ คิ้วเป็นเส้นตรง จีวรริ้วเป็นธรรมชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ประติมากรรมอื่นๆที่อยู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการสร้าง ประติมากรรมแทนบุคคล เช่น รูปสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) ที่วัดราชสิทธาราม และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ (สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2387), รูปสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ที่วัดโมลีโลกยาราม (สร้างในมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2386) จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 4 เกิดการเปลี่ยนแปลงกับรูปแบบประติมากรรมแทนตัวบุคคลในสยามอย่างชัดเจน โดยเป็นการสร้างรูปเคารพที่อิงกับความเป็นจริงมากกว่าจะอิงกับคติแบบโบราณ หรือกล่าวอย่างง่ายคือ ประติมากรรมแทนตัวบุคคลในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เชื่อว่ากษัตริย์ เปรียบเสมือนพระพุทธเจ้า มาเป็นแนวคิดที่ว่ากษัตริย์คือมนุษย์ และกลายเป็นแบบแผนใหม่ที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นรูปเหมือนบุคคลจะมีลักษณะที่เหมือนกับมนุษย์ทุกประการ อิทธิพลแนวความคิดดังกล่าว ประการหนึ่งคือการได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตกผ่านการติดต่อระหว่างสยามกับ ชาติตะวันตก ทั้งในมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนพระบรมฉายาลักษณ์, พระบรมสาทิสลักษณ์และพระบรมรูปเพื่อเป็นการสร้างมิตรภาพระหว่างประเทศในแง่ หนึ่งคือการพยายามแสดงให้เห็นว่าประเทศสยามมีอารยะและความเจริญแบบตะวันตก และในขณะเดียวกันก็เป็นการสบล้างคติความเชื่อแบบโบราณแต่เดิม เช่น การฉายพระบรมฉายาลักษณ์อันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัย(ในช่วง เวลานั้น) และการลบล้างความคิดเดิมๆที่เชื่อกันว่าผู้ที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายจะมีชีวิต ที่สั้นลง เป็นต้น หรือในมิติทางการศึกษาโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัย เกี่ยวกับวิทยาการจากตะวันตกในด้านต่างๆ

          สำหรับมูลเหตุของการสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เกิดจากการเชื่อมความสัมพันธไมตรีระหว่างสยามกับชาติตะวันตก กล่าวคือ ในปี พ.ศ. 2402 จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 (Emperor Napoleon III) ได้ส่งประติมากรรมรูปเหมือนของพระองค์และจักรพรรดินีอูจินี เดอ ม็องจู (Empress Euginie de Montijou) มาทูลเกล้าฯ ถวายเป็นเครื่องราชบรรณาการแก่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2406 ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างขึ้นโดย เอมิล ฟรังซัว ซาตรูส (Emile Franois Chatrousse) ประติมากรชาวฝรั่งเศส โดยประติมากรรมดังกล่าว เป็นประติมากรรมพระบรมรูปสัมฤทธิ์เคลือบทองแบบลอยตัว ในพระราชอิริยาบถยืน (ตริภังค์) โดยพระเพลาข้างหนึ่งรับน้ำหนึ่งของพระสรีระ พระวรกายบิดเบี้ยวเล็กน้อย ทรงฉลองพระองค์ด้วยเสื้อนอก ทรงพระภูษาโจงและทรงพระมาลาสก๊อต ส่วนรายละเอียดของพระพักตร์ รวมทั้งลวดลายรอยยับของเครื่องทรงและเครื่องประดับมีลักษณะเหมือนจริงเป็น ธรรมชาติ ตรงส่วนฐานสลัก “Chatrousse 1863 (ตรงกับปี พ.ศ. 2406) Paris” พระ บรมรูปองค์นี้ประติมากรน่าจะได้รับแรงบันดาลใจและรูปแบบจากพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ส่งไปถวายพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3

นอกจากนี้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพและสมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงบรรยายเกี่ยวกับพระบรมรูปดังกล่าว ปรากฏในสาสน์สมเด็จและทั้งสองพระองค์เรียกพระบรมรูปองค์นี้ว่า “พระบรมรูป 63” (เนื่องจากมีการสลักที่ฐาน ปี ค.ศ. 1863) และได้ทรงสันนิษฐานเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของพระบรมรูปองค์นี้ว่าน่าจะได้ รับรูปแบบจากการไปแสดงศิลปหัตถกรรมที่ประเทศฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2405 โดยมีบุคคลสำคัญในครั้งนั้นคือขุนสมุทรโคจร (เจ้าพระยารัตนาธิเบศร)

อย่างไรก็ตามพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่โปรดพระบรมรูปที่ทาง ฝรั่งเศสได้ส่งมาให้ ประการหนึ่งอาจเป็นเพราะประติมากรปั้นพระวรกายผิดส่วนไปจากความเป็นจริงค่อน ข้างมาก แม้แต่เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งตามความเป็นจริงน่าจะเป็นตราดาราช้างเผือก กลับเป็นตรา Légion d’Honneur ของฝรั่งเศสและมีสายสะพาย ดังในข้อความที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีพระหัตถ์ถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ปรากฏในหนังสือสาสน์สมเด็จ ว่า

“มีพระบรมรูปทูลกระหม่อมเป็นฝีมือฝรั่ง สูงราว 1 ศอก อยู่ในขององค์หลวงองค์ 1 ...หม่อมฉันสันนิษฐานว่า มีรับสั่งให้ส่งหรือจะมีใครส่งพระบรมรูปฉายาลักษณ์องค์นั้นออกไปให้ฝรั่งคิด ทำพระบรมรูปหล่อ ช่างฝรั่งมีแต่รูปฉายาลักษณ์ไม่รู้พระรูปโฉมตระหนัก จึงคิดทำแบบฝรั่ง รูปพระองค์อ้วนท้วมมีกล้ามเนื้อแบบฝรั่ง ผิดเพี้ยนห่างไกลจากพระรูปโฉมที่จริง คงเป็นเมื่อทอดพระเนตรเห็นพระบรมรูปองค์นั้นทูลกระหม่อมไม่พอพระหฤทัย จึงสั่งให้ปั้นพระบรมรูปเท่าพระองค์ขึ้นใหม่”

โดยรัชกาลที่ 4 โปรดให้หลวงเทพรจนา (พลับ) เป็นผู้ปั้นพระบรมรูปขึ้นมาใหม่โดยมีขนาดสัดส่วนเท่าพระองค์จริงและปรับรูป แบบมาจากพระบรมรูป 63 ที่ฝรั่งเศสส่งมาทูลเกล้าถวายนั่นเอง (เอกสารบางฉบับระบุว่า พระยาหัตถการบัญชาซึ่งเป็นจางวางช่างสิบหมู่เป็นผู้ปั้น แต่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์เข้าพระทัยว่าเป็นหลวงเทพรจนา เป็นผู้ปั้นขึ้น) จนกระทั่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทอดพระเนตรเห็นพระบรม รูปพระองค์ฝีมือช่างสยามก็พอพระทัย แต่ยังมิทันได้ดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงตามพระราชประสงค์ พระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน พระบรมรูปจึงยังอยู่ที่หอเสถียรธรรมปริต แล้วย้ายไปเก็บไว้ในพระบรมมหาราชวังตลอดรัชสมัยรัชกาลที่ 5 และ จนถึงสมัยสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) โปรดให้นำพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 (ฝีมือช่างไทย) ไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาทตามพระดำรัสแนะนำของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งผู้ที่อัญเชิญไปประดิษฐานครานั้นคือ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2503 ในรัชกาลปัจจุบันได้เกิดอัสนีบาต (ฟ้าผ่า) ตกลงมายังพระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท ทำให้พระบรมรูปชำรุดเสียหาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำริให้ซ่อมแซมเหมือนเดิม และได้มีการหล่อพระบรมรูปเป็นสำริดประดิษฐานไว้ที่พระที่นั่งเวชยันต์ วิเชียรปราสาทแทนตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันทุกวันนี้ ส่วนองค์เดิมภายหลังจากการซ่อมแซมแล้วเสร็จได้ย้ายไปประดิษฐานอยู่ที่พระตำ หนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศ

Joomla Templates

เขียนโดย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี on . Posted in Blog

Joomla Templates and WordPress Themes

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aute irure dolor in reprehenderit in voluptate velit esse cillum dolore eu fugiat nulla pariatur. Excepteur sint occaecat cupidatat non proident, sunt in culpa qui officia deserunt mollit anim id est laborum.

Warp Theme Framework

เขียนโดย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี on . Posted in Blog

Warp Theme Framework

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aute irure dolor in reprehenderit in voluptate velit esse cillum dolore eu fugiat nulla pariatur. Excepteur sint occaecat cupidatat non proident, sunt in culpa qui officia deserunt mollit anim id est laborum.

Beautiful Icons

เขียนโดย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี on . Posted in Blog

Beautiful and handcrafted icons for web and print projects

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aute irure dolor in reprehenderit in voluptate velit esse cillum dolore eu fugiat nulla pariatur. Excepteur sint occaecat cupidatat non proident, sunt in culpa qui officia deserunt mollit anim id est laborum.

Widgetkit

เขียนโดย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี on . Posted in Blog

Widgetkit

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aute irure dolor in reprehenderit in voluptate velit esse cillum dolore eu fugiat nulla pariatur. Excepteur sint occaecat cupidatat non proident, sunt in culpa qui officia deserunt mollit anim id est laborum.

เนื้อหาอื่นๆ...

01

"04”

"07”